หากพูดถึงเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตก มันก็จะมีผุดขึ้นมาอยู่ 2 เกมด้วยกัน เกมแรกก็คือโป๊กเกอร์ ซึ่งจะต้องพึ่งพาการบลัฟกันอย่างเมามัน ทำหน้าตายตามแบบฉบับของคำว่าโป๊กเกอร์เฟซ ส่วนอีกเกมหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลยก็คือ “แบล็กแจ็ก” นั่นเอง
แบล็กแจ็ก ยังคงเป็นเกมไพ่ที่ทรงเสน่ห์และได้รับความนิยมอย่างมากตามบ่อนหรือคาสิโนทั่วๆ ไปเพราะเกมไพ่ blackjack ด้วยกฎการเล่นอันโดดเด่นไม่เหมือนใคร บวกกับการวางแผนและการตัดสินใจที่จะต้องมีความเฉียบขาด เพราะการตัดสินใจหนึ่งครั้งอ่านเปลี่ยนหน้าไพ่ของคุณให้ดีที่สุดหรือแย่ที่สุดได้ในพริบตาเลย
ไม่ใช่แค่ในบ่อนหรือคาสิโนทั่วๆ ไป ทว่าแม้แต่กับเว็บคาสิโนออนไลน์เอง ปัจจุบันผู้ให้บริการแทบทุกแห่งก็ได้นำเอาแบล็กแจ็กมาเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นคนเล่น เสี่ยงดวงกับหน้าไพ่ด้วยตัวเอง หรือจะเป็นคนเบื้องหลัง แทงว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะก็ย่อมได้ ซึ่งสองรูปแบบการเดิมพันนั้นก็จะให้ความสนุกที่แตกต่างกันออกไป อย่างโดยส่วนตัวของผู้เขียนเองจะชอบลงไปเล่นด้วยตัวเองมากกว่า เพราะมันทำให้เราได้โชว์สกิลเทพ (มั้งนะ?) ที่มีอยู่ในตัวออกมาให้ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน
จงจำไว้ว่า “21”
คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากหรอกมั้งกับการเล่นไพ่แบล็กแจ็ก เพราะเราเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนอย่างน้อยก็จะต้องเคยได้ยินมาอยู่แล้วว่า สิ่งสำคัญของเกมเดิมพันนี้ก็คือทำให้แต้มรวมของไพ่บนมือใกล้เคียงกับแต้ม 21 มากที่สุด หรือถ้าสองใบแรกเรารวมกันได้ 21 แต้มแบบพอดิบพอดีก็ให้ตะโกนออกมาดังๆ เลยว่า “แบล็กแจ็ก!!” (ถ้าดังเกินไปก็ระวังข้างห้องออกมาด่าด้วยนะ) เพราะนั่นหมายความว่านั่นคือสูงสุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว เกินกว่านั้นก็คือจะกลายเป็นแพ้แทนล่ะนะ
แต่ในเมื่อมันมีกฎอยู่ว่าแต้มในมือใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต่ห้ามเกิน 21 อย่างนั้นแล้ว เทคนิคแบล็คแจ็ค ความสงสัยที่ตามมาก็คือ เราควรเรียกไพ่หรือหยุดเรียกไพ่ในช่วงจังหวะไหนดี ตรงนี้นี่แหละที่ถือว่าเป็นจุดสำคัญของเกม เพราะเราไม่รู้เลยว่าไพ่ที่เราขอมานั้นจะเป็นแต้มเท่าไหร่ บวกกันแล้วจะเกินมั้ย? มันเป็นอะไรที่แทบจะคาดเดาไม่ได้เลย ทว่าถ้าแต้มในมือเราน้อยแล้วเลือกที่จะหยุด อย่างนั้นเราก็อาจต้องแพ้เจ้ามืออีก
เพราะฉะนั้นบทความนี้จึงได้พูดถึง สถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่เจอกัน กับการตัดสินใจโดยคำแนะนำจากเหล่าเซียนแบล็กแจ็กทั้งหลายว่า ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้เราควรจะหยุดหรือเรียกไพ่เพิ่มดี งั้นเราลองไปเริ่มดูจากสถานการณ์แรกกันก่อนเลย
ในมือมี 11 แต้ม หรือต่ำกว่า – แทบไม่ต้องบอกเลยว่าเราควรทำอย่างไรถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางออกเดียวก็คือการขอไพ่นั่นเอง เพราะว่าหากเราขอไพ่ในกรณีนี้แล้ว การใช้สูตรแบล็คแจ็ค มันไม่มีความเป็นไปได้เลยที่แต้มของเราจะเกิน 21 เผลอๆ แต้มที่ออกมาอาจจะเป็น 21 พอดีเลยก็ได้ด้วยซ้ำไป (เช่น แต้มในมือ 11 ได้ 10 มาเพิ่มอีกใบ รวมกันได้ 21)
ในมือมี 12 แต้ม แต่เจ้ามือมี 4 หรือ 5 หรือ 6 – สำหรับกรณีนี้แนะนำว่าไม่ควรเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถ้าหากเราเห็นว่าไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็น 4 หรือ 5 หรือ 6 แล้ว นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสที่จะชนะเจ้ามือได้มากกว่าแม้ในมือมีเพียง 12 แต้มก็ตาม แต่ถ้าหากใบแรกของเจ้ามือเป็นไพ่ใบอื่นนอกเหนือจากนั้น แนะนำว่าให้เราขอไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ เพราะเจ้ามือมีโอกาสสูงมากที่จะมีแต้มสูงกว่าเราในตอนท้าย เช่น ถ้าใบแรกเป็น 2 เจ้ามือเปิดใบต่อมาได้ 10 ขอเพิ่มอีกใบได้ 2 แค่นั่นก็ชนะเราสบายๆ แล้ว
ในมือมี 13-14 แต้ม แต่เจ้ามือมี 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 5 หรือ 6 – หากเป็นกรณีก็ขอแนะนำให้หยุดก่อนจะดีกว่า เหมือนกับกรณีก่อนหน้านี้เลย ถ้าเราหยุดเราก็จะมีโอกาสชนะเจ้ามือได้มากกว่า แต่ถ้าใบแรกของเจ้ามือเป็นไพ่ใบอื่นนอกเหนือจากนั้น ก็แนะนำให้เราขอเพิ่มอีกสักใบจะเป็นการดีที่สุดล่ะนะ
ในมือมี 15-16 แต้ม แต่เจ้ามือมี 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 5 หรือ 6 – เป็นอย่างนั้นเราไม่ควรเรียกไพ่เพิ่ม
ในมือมี 15-16 แต้ม แต่เจ้ามือมี 7 หรือ 8 – ถ้ากรณีนี้ดีที่สุดคือให้ขอเพิ่มอีกสักหนึ่งใย
ในมือมี 15-16 แต้ม แต่เจ้ามือมี 9 หรือ 10 หรือ J หรือ Q หรือ K หรือ A – ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดคือหมอบเสียจะดีกว่า เพราะมันเป็นไปได้สูงมากๆ ที่เจ้ามือจะชนะในรอบนี้ ถ้าเราหมอบ อย่างน้อยก็จะเสียเงินเดิมพันไปแค่ครึ่งเดียว
ในมือมี 17 หรือ 18 หรือ 19 หรือ 20 – ได้แต้มสูงขนาดนี้ก็ให้หยุดขอจะดีกว่า แค่นี้ % ชนะเราก็สูงมากแล้ว รอลุ้นแต้มของเจ้ามือไปเลยดีที่สุด
ในมือมี 21 แต้ม – อันนี้คงไม่ต้องอธิบายหรอกมั้ง (ฮา)